Wednesday, October 15, 2008

THAIIIIIIILAAAAAND!

living in thailand is great fun!
one can do what one wants,
one demands rediculous demands
referring to just one word out of a two thousand pages of great book - democracy!

DEMO CRAZINESS!

Monday, August 11, 2008

A Night At the Hospital

9th August 2008; about 1930hrs - JJ was VERY SICK while S and Big J were starting the dinner!

แต่เหตุการณ์ทำให้แม่ได้กินข้างเพียงหน่งคำ พ่อกำลังจะลงมือ ... แล้วเราก็ตัดสินใจพาลูกไปโรงพยาบาล (ดีที่แม่เคยเป็นพยาบาลมาก่อน รู้สถานการณ์ดีว่าควรทำอะไร เมื่อใด อย่างไร)

ลูกแทบไม่มีแรงเดิน ... พ่อต้องหิ้วปีกไปขึ้นรถ พอขึ้นรถได้ก็นอนแหมะลงที่เบาะหลังทันที
แม่เก็บกระเป๋าและสัมภาระที่จำเป็น (และดูออกว่าน่าจะต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล ... รู้ได้ไงเนี่ย?

ถึงประตูเข้าอาคารโรงพยาบาล เจเจ หมดแรงต้องนั่งรถเข็นเข้าโรงพบาบาล ... อย่างคล่องแคล่ว - ไม่ทุลักทุเลเลย เพราะมีคนเข็น

และทุกอย่างก็เป็นจริง ... หมอตรวจอาการและนอนโรงพยบาล ... ห้องเดี่ยวไม่มีต้องนอนห้องสามเตียง โชคดีที่ตอนนั้นมีคนไข้(เด็ก) ป่วยอยู่เตียงเดียวตรงทางเข้า เตียงที่สองว่าง เจเจ ยึดเตียงที่สาม

ทั้งหมดนี้หลังจากหมดได้เจาะหลังมือซ้าย ... เอาเลือดออกไปตรวจนิดหน่อยแล้วให้น้ำเกลือต่อ แล้วก็เข็นกันมาบนรถเข็นพร้อมเสาห้อยสายน้ำเกลือระโยงระยาง

ในที่สุดสองแม่ลูกก็ต้องนอนโรงพยาบาล และพ่อต้องกลับบ้านเพื่อหวนกลับมาอีกทีพรุ่งนี้เข้า ...

เช้าวันอาทิตย์ 10 สค ... พ่อไปถึงโรงพยาบาลสิบโมงกว่าพร้อมของบางอย่างที่แม่สั่ง-สายชาร์ตแบตเตอรี่โทรศัพท์ ชุดชั้นใน ...

สิบโมงกว่าหมอก็ยังไม่มาตรวจอาการ! น้ำเกลือถูกถ่ายเข้าไปในร่างเล็ก ๆ ของ เจเจ ประมาณเจ็ดส่วนสิบ อีกไม่นานคงหมด

คาดได้ว่าโรงพยาบาลก็คือโรงพยาบาล ... ทราบทีหลังว่าหมอติด "เคส" ก็เลยมายังไม่ถึง กว่าจะมาถึงได้ก็เกือบเที่ยงวันแล้ว บอกว่า "ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ติดเช้อไวรัสในอากาส ฯลฯ กลับบ้านได้"

เจเจ หน้าตาสดใส และลิงเริ่มกลับมาสิงตามเคย ... สายน้ำเกลือมีเลือดซึมออกมา ...

กลับบ้านได้แต่กลับยังไม่ได้ ... โรงพยาบาลต้องประสานงานกับบริษัทประกันของ เจเจ นานนนนนนนนนนน ... แม่ก็เลยสั่งแม่บ้านให้จัดอาหารเที่ยงมาให้เสียเลย - ข้าวต้ม ไข่เจียว และแกงจืดที่จืนสนิทสมชื่อ กินได้ทั้งลูก แม่ และพ่อ

ระหว่างรอ ทีวี มีถ่านทอดกีฬาโอลิมปิกกิ่งให้ชมด้วย ... ว่ายน้ำรายการที่ไมเคิล เฟลพ์ส ทำลายสถิติได้เหรียญทองเหรียญแรกนั่นแหละ

นานนนนนนน ... ผ่านไป ทุกอย่างจึงเรียบร้อยและกลับบ้านได้

แม่กับ เจเจ ผู้แข็งแรงกระปรี้กระเปร่าผู้มีลิงสิงอยู่ภายใน พากันแวะตู้ เอทีเอ็ม เพื่อโอนเงินค่าหุ้นที่พ่อซื้อวันก่อน ส่วนพ่อผู้เป็นพนักงานขับรถออกไปเอารถเพื่อมารับ ...

แล้วเราก็กลับมาถึงบ้าน ... ป้าปุ๊ย น้าน้อย น้าโขง น้องขิม และน้าแก๋ว รออยู่แล้ว ... จากนั้นบ้านก็ครึกครื้นรื่นรมย์เป็นการใหญ่

ไม่นาน เอส ก็ทำก๊วยเตี๋ยวเลี้ยงประชาชนอย่างอิ่มหนำสำราญฤทัยก่อนแขกพากันล่าถอยไปรับคุณยายที่ทำผมรออยู่ในตลาด ...

จบ

(หมายเหตุ-มีรูปลิง โอ้ยไม่ใช่ เด็กป่วยพร้อมสายน้ำเกลือ แล้วจะนำมาโชว์ภายหลัง)

Sunday, August 3, 2008

JJ and His first Eye Glasses

อาทิตย์ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เวลา 1100น. - เจเจ ไปร้านจักษุแพทย์กับคุณแม่และคุณพ่อ

คุณแม่ไปหาคุณหมอเพราะว่าทั้งแว่นสายตาและคอนเท็กเลนส์เก่าแล้ว ... สองปีแล้ว เลยคิดว่าน่าจะได้เวลาไปหาคุณหมอและจัดการเรื่องนี้เสียที

ส่วนคุณลูกกับคุณพ่อไม่มีแผนการของตนเอง ... ก็เลยห้อยแผนการเข้าไปให้สอดคล้อง (ความจริงอยากออกนอกบ้านกัน!)

เจเจ ... ตอนนี้ "ทีชเชอร์" ย้าย เจเจ ไปนั่งหลังห้อง เลยมอง "บอร์ด" ไม่ค่อยเห็นชัด เจเจ ต้องไปวัดสายตาเหมือนกัน นะแม่นะ
พ่อ ... แว่นตาขาหักมาหลายเดือนแล้ว ไปก็ดี นะแม่นะ จะได้ให้ช่างเขาเช่อมให้เสียที

(พ่อรู้สึกไม่ชอบใจที่ลูกจะต้องใส่แว่นตา ... ก้พ่อใส่มาตั้งแต่อายุสิบแปด สามสิบกว่าปีแล้ว มีปัญหาสารพัด ยุ่งยาก เกะกะ ... เฃ่น ตอนกินก๊วยเตี๋ยวร้อย ๆ ไอน้ำซุปลอยมาเกาะจนมองไม่เห็น นี่ไม่นับตอนจุ๊บคนรักนะ ...โธ่ว้อย มันเกะกะน่าดู! แต่คุณแม่บอกว่าตอนหลัง ๆ เห็น เจเจ บ่นเรื่องปวดหัวอยู่บ่อย ๆ ไปให้หมอวัดเสียทีก็ดี)

To make the long story short ...

คุณหมอบอกว่า เจเจ สายตาเอียง (ไม่ใช่คอเอียงนะครับ) ... ในที่สุดต้องใส่แว่น!

ก็เลยต้องเลือกกรอบแว่น (เลือกเองซะด้วย) ตัดเลนส์ ... ซื้อแว่น และสวมแว่นกันทั้งบ้าน!

(ไว้มีโอกาสจะเอาภาพลิงอายุ เจ็ดขวบ สวมแว่นมาให้ดูนะครับ ... เท่มากจริง)

(นึกในใจคนเดียว ... นี่ถ้าเย็นวันนี้-จันทร์ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2551 - ลูกกลับบ้านพร้อมแว่นตา จะฉลองความรับผิดที่ลูกพัฒนาข้นอย่างรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ!)

Saturday, June 21, 2008

สารเหม็นจับโจร

ผู้เขียน
เจเจ

วันที่ 9 มิย 51 เวลา 21.40 น.



ตอนที่ 1

ขั้นตอนหมักสารเหม็นกลิ่นแรง

1. นำผงซักฟอก + แชมพู + น้ำค้างไว้ 2 เดือน
2. หมักน้ำตาเทียน + ถั่วดำ 10 เม็ด + อึแมลงสาบ 1,678 เม็ด
3. เติมผักเน่า + สารส้ม 4 เม็ด ผสมรวมกันแล้วจะได้ ...

สารเหม็นกลิ่นแรงที่สุด!!!

ตอนที่ 2จับโจร

วันหนึ่งขณะที่แม่กับพ่อและแม่จู่ออกไปข้างนอก เจเจ ดู ทีวี โจรก็ขับรถยนต์มา คิดว่าจะมาขโมยของ แต่ เจเจ ได้ยินเสียง เจเจ เลยมองออกหน้าต่าง แล้วเห็นรถของโจรและโจร

แล้ว เจเจ ก็เอาสารเหม็นทาที่หน้าบ้าน และพอโจรไปที่สวน เจเจ ก็ทาสารเหม็นลงที่ช่องแอร์ทุกช่อง และ เจเจ ก็เขียนแผ่นโฟมว่า

เจ้าตำรวจหน้าโง่ มาจับรถคันนี้สิ

และอัดเทปว่า

“ตำรวจหน้าโง่”


และให้เทปซ้ำกัน เมื่อรถออกรถไป ป้ายจะเปิดและโดนคานกระดก คานกระดกจะดีดลูกหินไปโดนปุ่มเปิดเทป

“ตำรวจหน้าโง่”

พอออกรถ กลไกก็ทำงาน มีถังแก๊สใส่สารเหม็น 7 ถัง รวมเป็นสายเดียวและออกที่ปลาย จะกระจายกลิ่นเหม็นออกมาทันทีที่ เจเจ ที่อยู่บนหลังคารถเปิดจุกก๊อก


ตำรวจก็จะจับโจร!

Thursday, March 6, 2008

พนักงานบริษัทฝาหรั่ง

ห้ามป่วยห้ามตายห้ามย้ายถิ่น
ทนอยู่ทำกินดิ้นรนไป
หนี้สินท่วมตัวช่างหัวใคร
บ่นไปทำไปเดี๋ยวก็สิ้นเดือน

Wednesday, February 27, 2008

Monday, February 18, 2008

มิใช่กลัวแพ้ ... เพียงไม่อยากแพ้

เล่นตามกติกาก็เป็น
ทำตามคสั่งก็ได้
ลอกเลียนแบบลายเส้น
ลีลาอ่อนช้อยแบบคลาสสิค

ฯลฯ

แต่ทำได้ไม่ตลอด
เพราะทำได้ไม่เก่ง
ไม่งดงามเหมือนที่กำหนด
หรือกติกาตั้งไว้

จึงหันไปทำอย่างอื่น
ที่ไม่มีใครทำ ...
เหมือนหม้อแต่ไม่ใช่
เหมือนไหแต่ไม่เชิง
เหมือนสวยแต่สวยอีกแบบ

ที่จริง ... ฉันก็ทำตามกติตา
ตามคำสั่ง คำแนะนำ ความคาดหวัง
ไม่เป็นไปตามนั้น
แต่เป็นแบบของฉัน
ยอดเยี่ยมแบบของฉัน

ที่ฉันไม่แข่งขันตามกติกา
มิใช่ว่ากลัวแพ้
เพราะฉันไม่เคยกลัวแพ้ ...
เพียงแค่ไม่อยากแพ้
เท่านั้นเอง

Thursday, January 31, 2008

ในวันท้อแท้

ในวันท้อแท้...

เหมือนเดินทางไกล
ขึ้นเขาลงห้วย
ฝ่าดงพงพนาม
ท่ามกลางแดดกล้า
หลายร้อยหลายหมื่นไมล์
ก่อนมาถึงร่มเงาไม้ต้นเล็ก
ข้างริมห้วยน้ำแห้งขอด

น่งใต้ร่มเงา เหยียดแข้งขา
เอนกายลงนอน เหยียดแขน
หลับตาหลบแสงจ้าที่ส่องมองตามร่องใบไม้
ย้อนคิดตอนเริ่มเดินทาง...

เนิ่นนานผ่านไปไม่อยากขยับกายลุก
ไม่อยากออกเดินทางต่อไป
แม้จะยังอีกไกล
กว่าจะถึงเป้าหมาย

Monday, January 28, 2008

คนผีคน

คนติดถิ่น ผีก็ติดถิ่น
คนหนองบัวไม่เคยโดนผีนิวยอร์คหลอก
ผีอลาสกาไม่เดินทางไปปักกิ่ง
คนเบงกาลอก็ไม่อยากจากบ้าน
ถึงแม้จากก็ยังคิดถึง
และอุทานเป็นภาษาบังกาลอ
เมื่อพบสิ่งที่เหลือเชื่อ

ดนดีผีดี คนดื้อผีดื้อ คนสวยผีสวย
หลายคนยังกกับผี หลายผียังกับคน
โลกออกจะปน-ปนกัน
จนฉันงง-งงว่าตัวเองเป็นคน
หรือเป็นผี!

Thursday, January 17, 2008

หลักบัญชีเบื้องต้น

ผมเข้าใจว่าการทำบัญชีบริษัท พูดกันอย่างถึงที่สุด ก็คงไม่ต่างจากบัญชีส่วนบุคคล คือ

คิด รายรับ ลบด้วย รายจ่าย เหลือเท่าไหร่นับเป็น กำไร/ขาดทุน

รายจ่าย – ในที่นี้นับรวมรายจ่ายทั้งหมดที่เป็นจริง (และไม่จริง) รวมทั้งภาษี สิ่งที่สำคัญในหมวด “รายจ่าย” นี้มีรายการที่ยังไม่จ่ายจริงรวมอยู่ด้วย เรียกง่าย ๆ ว่า “กันเอาไว้” เพื่อจุดประสงค์บางประการหรือหลายประการ เช่น เผื่อจ่ายโบนัสให้กับพนักงาน ให้ของขวัญปีใหม่กับพวกข้าราชการที่ “มีพระคุณ” เป็นต้น

สำหรับแผนก SP ของเราปีนี้
มี รายรับ ลบ รายจ่าย แล้ว
เหลือเป็นกำไรสุทธิราว ๆ 100 ล้านบาท ... เงินส่วนนี้พวก“เจ้าของบริษัท”รับไป
ส่วนที่ “กันเอาไว้” (คงมีจำนวนมากพอประมาณทีเดียว) ... ยังไม่มีการใช้จ่าย

ได้ข่าวว่าพวก “เจ้าของบริษัท” กำลังยื้อว่าเงินส่วนที่ “กันเอาไว้” ให้ชับบ์ฯ นำไปจ่ายเป็นโบนัสได้แค่ “เพียงเล็กน้อย” ... จริงเท็จยังไม่เป็นที่ยืนยัน
เพราะ “คนเหล่านี้” ยังไม่เคยทำอะไรเป็นลายลักอักษรในเรื่องนี้

และดังนั้น จนขณะนี้เราก็ไม่รู้ว่าจะได้โบนัสกัน ... เมื่อใด และ คนละกี่บาท!

(บทเรียนสำหรับพนักงานของบริษัทข้ามชาติ ... ถ้าใครยังไม่ประสบ ขอให้คาดการณ์ได้เลยว่าสักวันหนึ่งจะต้องเจอ!)
16 มค 2551

Monday, January 14, 2008

THEN WHAT?

A story goes …

Henry Ford always bought flowers for his wife from a shop every Friday evening. Once, he asked the old florist, “Gentleman, you have a good shop. Why not open a branch?”

Florist: Sir, then what?

Henry Ford: You will then have several branches in Detroit.

Florist: Sir, then what?

Henry Ford: Then all over USA.

Florist: Sir, then what?

Henry Ford, angrily: Damn it, you will then be able to relax.

Florist: That is what I am doing even now.


Ford walked away sheepishly.

COST & QUALITY

Some said ...

The COST is long forgotten,
But the QUALITY is remembered forever.

Do they really mean quality QUALITY?
Or do they mean RESULT?

Really, is it YOUR quality?
Or MINE?

HUMAN world, after all, is a comparative world.

MOUTH & MIND

A saying goes …

Even a fish wouldn’t be in trouble
If he’d keep his mouth shut!

They said MOUTH and MIND work differently;
MOUTH works when it SHUT – at the right time.
MIND, on the contrary, works when it OPENS.

Human MIND is like a parachute, it only works when it is OPEN.

ต้องวางแผน

ก่อนจะทำต้องคิดให้ดี
มีวิธีจะทำอะไร
ก่อนจะทำสิ่งไหน-ไหน
ต้องวางแผนก่อน





(เจเจ –ลูกชายแต่งตอนอายุ 3 ขวบ เลียนทำนอง “โดราเอมอน” บรรทัดสุดท้ายคุณพ่อจอมวางแผนเป้นคนเติมให้)

หญ้าริมทาง

เกิดจนตายก็อยู่ริมข้างทาง
คนเรียกขานว่าเป็นหญ้าริมทาง
เป็นหรือตายก็อยู่ริมข้างทาง
ไม่เคยมีใครรดน้ำพรวนดิน

ยามฝนพรำก็งอกงามสวยดี
มีมากเกิดเขาก็ถางทิ้งไป
ยามแล้งแห้งถูกรุมสุมไฟ
คือความเป็นไปของหญ้าริมทาง

Friday, January 11, 2008

All Right

All right - apparently, has nothing to do with 'all wrong'!
You could say,'All right, now we are going to ...'
Just like the signal of changing topics.

You could say, '... that's why we come here. All right?'
Just to make sure that the listeners understand what you are talking about.

So many other uses of 'all right'
Not to mean 'all NOT wrong'
(All) Right?

MAN

They said,
Man is the production of his thought;
So he possesses GOOD THOUGHTS,
He is likely doing GOOD things.
On the contrary,
He is likely doing BAD things.

If he possesses thoughts of GREED,
He is obviously a GREEDY man.

I said ‘tis true,'tis true;
What else could I say?

jarouk jansom
11 jan 07

Thursday, January 10, 2008

Capucino

I got a meeting at StarBuck, Convent, Silom.
Waiting for Robert, I bought a mid-size hot Capucino;
Sipping 85-baht-cup of Capucino; looking outside to the food stalls;
Som-tum, Kai-yang, and all northeastern foods;
Only 30 baht can make you feel good.

Do I really need Capucino?

Wednesday, January 9, 2008

Thoughts Think: Thoughts Think: มันเป็น ... เช่นนั้นเอง

Thoughts Think: Thoughts Think: มันเป็น ... เช่นนั้นเอง

Thoughts Think: ว่าด้วย "ค" ควายเข้านา

Thoughts Think: ว่าด้วย "ค" ควายเข้านา

Thoughts Think: แมลงวัน

Thoughts Think: <strong>แมลงวัน</strong>

ฉันเอง

ฉันเป็นประชาธิปไตย
เราเป็นประชาธิปไตย
ทุกคนเป็นประชาธิปไตย
แต่ฉันเป็นประชาธิปไตย "กว่า"

ฉันมีสิทธิ์
เรามีสิทธิ์
ทุกคนมีสิทธิ์
แต่ฉันมีสิทธิ์ "กว่า"

ฉันเป็นชาวพุทธ
เรานับถือศาสนาพุทธ
ทุกคนนับถือศาสนาพุทธ
แต่ฉันนับถือศาสนาพุทธ "กว่า"

ฉันทำดี
เราทำดี
ทุกคนทำดี
แต่ฉันทำดี "กว่า"

ฉันเป็นคนรักชาติ
เราเป็นคนรักชาติ
ทุกคนเป็นคนรักชาติ
แต่ฉันรักชาติ "กว่า"

ฉันรับฟังความเห็น มีความเห็น
เรารับฟังความเห็น มีความเห็น
ทุกคนรับฟังความเห็น มีความเห็น
แต่ฉันรับฟังความเห็น มีความเห็น "ถูกต้องและดีกว่า"

ฉันเป็นเจ้าของประเทศ
เราเป็นเจ้าของประเทศ
ทุกคนเป็นเจ้าของประเทศ
แต่ฉันเป็นเจ้าของประเทศ "กว่า"

ฉันไปเลือกตั้ง
เราไปเลือกตั้ง
ทุกคนต้องไปเลือกตั้ง เลือกใครก็ได้
ผลออกมาจะเป็นใครก็ได้
ที่ฉันบอกว่า "ใช่"
เพราะฉันเป็นเจ้าของประเทศ "กว่า"
จึงรู้ว่าเลือกใครจึง "ดีกว่า"

สวัส ... ปีใหม่ 2551

จึงส่งสาส์นถึงกันตามความจริง

สวัส "เลว" หรือ "ดี" นะปีใหม่
ล้วนแต่รู้แก่ใจกันทุกสิ่ง
ล้มลุกคลุกคลานปานว่าลิง
วุ่นวิ่งทำงานกันงก-งก

ได้กำไรจน "ล้น" กอบ "ล้น" กำ
อิ่มหนำ "คำชม" กันฉ่ำอก
จึงยิ้มหวานฝันละเมอจนเพ้อพก
คงได้หกถึงเจ็ดสัปดาห์!

ข้าจะแบ่งเงินรางวัลเป็นสามส่วน
ใส่หมูอ้วนออมไว้เผื่อภายหน้า
ผ่อนดอก ผ่อนบ้าน ผ่อนรถรา
ซื้อเสื้อผ้าอาหารให้ลูกเมีย

ถ้ามีเหลือ-ถึงมีเหลือ-คงเล็กน้อย
จะใช้สอยอย่างรู้คุณไม่สูญเสีย
อาจจะดื่มกลั้วคอพอหายเพลีย...
โอ้เดียร์!โอ้เดียร์!... ฉันฝันไป!

ลืมตา-แหกตา-ดูให้ดี
เพื่อนพ้องน้องพี่ต่างร่ำให้
ดูนั่นสิ...เขาดีใจหรือเสียใจ
เขาต้อนรับปีใหม่ด้วยน้ำตา

Monday, January 7, 2008

อันเถาวัลย์พันเกี่ยว ...

เถาวัลย์มิอาจเป็นเถาวัลย์
หากไม่มีไม้หลัก ต้นไม้ใหญ่-น้อย
ไม้ซี่รั้ว-เหล็กซี่รั้ว
ให้เถาวัลย์เลื้อยขึ้นมาเกาะ

ไม่ว่า "หลัก" เหล่านั้นจะยืนอยู่ทิศใด
เส้นทางของมันจะ "เลื้อย" พันเพื่อเกาะ "หลัก" ให้แน่น
พยุงตนให้พุ่งยอดขึ้นหาฟ้า
หมุนตัวในทิศทาง "ย้อนเข็มนาฬิกา"

เคยมีคนจับมันหมุน "ตามเข็มนาฬิกา"
ก็ได้ ... แต่ก็เท่าที่ "คนทำ"
จากนั้นมันก็หมุนตัว "ทวนเข็มนาฬิกา" ตามเดิมต่อไป

นาฬิกาสังสัยนักว่า
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นหนอ?

Thoughts Think: Human Egoism

Thoughts Think: Human Egoism

Thoughts Think: มันเป็น ... เช่นนั้นเอง

Thoughts Think: มันเป็น ... เช่นนั้นเอง

แมลงวัน FLY

แมลงวันตาใส
ติดอยูในตู้กระจก
ตู้กระจกเปิดอ้า
หาทางออกไม่เห็น


A transparent-eyed fly,
Lost in a shiney glass box
Whose door is left open;
Cannot find its way out.

Thoughts Think: ว่าด้วย "ค" ควายเข้านา

Thoughts Think: ว่าด้วย "ค" ควายเข้านา

แมลงวัน

แมลงวันตาใส
ติดอยู่ในตู้กระจก
ประตูเปิดอ้า
หาทางออกไม่เห็น

Friday, January 4, 2008

And How True Is This?

"I'm not a lawyer. I know some law. In fact, I know a lot of law. And I made some money out of the law. But I'm not a lawyer. That's why I can see what the law is like. It's like a single-bed blanket on a double bed and three folks in the bed and a cold night. There aint never enough blanket to cover the case, no matter how much pulling and hauling, and somebody is always going to nigh catch pneumonia. Hell, the law is like the pants you bought last year for a growing boy, but it is always THIS year and the seams are popped and the shankbones to the breeze. The law is always too short and too tight for growing mankind. The best you can do is do something and then make up some law to fit and by the time the law gets on the books you have done something different ..."

Robert Penn Warren, All the King's Men

Human Egoism

'Tis with our judgments as our watches, none
Go just alike, yet each believes his own.

Alexander Pope


How true!

How Do You Think About This?

"Working while attending college helps students to become more self-reliant, purposeful, and responsible."

Would it be better to start working while you are in high school?

Or never attend school at all?

มันเป็น ... เช่นนั้นเอง

เพื่อนเอย ...
ดวงตะวันมันจะลับ มันจะดับ มันจะตก
มันจะห้อยหัวหก หรือมันจะตกไปทางไหน
อย่ามัวแต่นั่งทอดถอน อย่ามันแต่นอนปวดใจ
โลกจะเป็นเช่นไรมันก็เป็น ... เช่นนั้นเอง

คนมีงานก็ทำงาน ... คนตกงานก้หางาน!

ว่าด้วย "ค" ควายเข้านา

"ค" ควายเข้านานำมาใช้เป็นอักษรย่อของคณะบุคคลหรือหน่วยงานที่มีนัยในเรื่องที่มี "อำนาจ" หรือ "อิทธิพล" อยู่หลายคำ เช่น คตส ครป คมช ครม คตง ...
โดยเป้าหมาย คณะบุคคลเหล่านั้นน่าจะใช้ "อำนาจ" หรือ "อิทธิพล" ไปในทิศทางเพื่อเกื้อกูลต่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม แต่ในทางปฏิบัติไม่แน่ใจว่าจะเอื้อประโยฃน์ต่อใคร ซ้ำดีซ้ำร้ายกลายเป็นคำย่อของคณะบุคคลที่กอบโกยจนพุงกางซะละมากกว่า

อันที่จริง "ค" ควายเป็นสัตว์ที่มนุษย์ฝึกฝนขึ้นมาใช้แรงงาน มีลักษณะแข็งแรง อดทน ... ทำงานหนักเพื่อ "คน" มาหลายร้อยพันปี แต่คน(ไทย) จำนวนหนึ่งกลับนำคำว่า "ควาย" มาใช้เปรียบเปรยในความหมายว่า "โง่" ... คนพวกนี้มันโง่ยังกับควาย!

เนรคุณสิ้นดี!

ขอบคุณ -คตส คมช และ "ค" อื่น ๆ อีกมากมาย ที่ทำให้อย่างน้อย "ค" ควายยังพอมีความหมายไปในทางที่มี "อำนาจ" บ้าง รวมทั้งขอบคุณ "ปืน ค" ที่ทำให้เราได้ค่า "หค" หลายสิบล้าน