Monday, August 11, 2008

A Night At the Hospital

9th August 2008; about 1930hrs - JJ was VERY SICK while S and Big J were starting the dinner!

แต่เหตุการณ์ทำให้แม่ได้กินข้างเพียงหน่งคำ พ่อกำลังจะลงมือ ... แล้วเราก็ตัดสินใจพาลูกไปโรงพยาบาล (ดีที่แม่เคยเป็นพยาบาลมาก่อน รู้สถานการณ์ดีว่าควรทำอะไร เมื่อใด อย่างไร)

ลูกแทบไม่มีแรงเดิน ... พ่อต้องหิ้วปีกไปขึ้นรถ พอขึ้นรถได้ก็นอนแหมะลงที่เบาะหลังทันที
แม่เก็บกระเป๋าและสัมภาระที่จำเป็น (และดูออกว่าน่าจะต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล ... รู้ได้ไงเนี่ย?

ถึงประตูเข้าอาคารโรงพยาบาล เจเจ หมดแรงต้องนั่งรถเข็นเข้าโรงพบาบาล ... อย่างคล่องแคล่ว - ไม่ทุลักทุเลเลย เพราะมีคนเข็น

และทุกอย่างก็เป็นจริง ... หมอตรวจอาการและนอนโรงพยบาล ... ห้องเดี่ยวไม่มีต้องนอนห้องสามเตียง โชคดีที่ตอนนั้นมีคนไข้(เด็ก) ป่วยอยู่เตียงเดียวตรงทางเข้า เตียงที่สองว่าง เจเจ ยึดเตียงที่สาม

ทั้งหมดนี้หลังจากหมดได้เจาะหลังมือซ้าย ... เอาเลือดออกไปตรวจนิดหน่อยแล้วให้น้ำเกลือต่อ แล้วก็เข็นกันมาบนรถเข็นพร้อมเสาห้อยสายน้ำเกลือระโยงระยาง

ในที่สุดสองแม่ลูกก็ต้องนอนโรงพยาบาล และพ่อต้องกลับบ้านเพื่อหวนกลับมาอีกทีพรุ่งนี้เข้า ...

เช้าวันอาทิตย์ 10 สค ... พ่อไปถึงโรงพยาบาลสิบโมงกว่าพร้อมของบางอย่างที่แม่สั่ง-สายชาร์ตแบตเตอรี่โทรศัพท์ ชุดชั้นใน ...

สิบโมงกว่าหมอก็ยังไม่มาตรวจอาการ! น้ำเกลือถูกถ่ายเข้าไปในร่างเล็ก ๆ ของ เจเจ ประมาณเจ็ดส่วนสิบ อีกไม่นานคงหมด

คาดได้ว่าโรงพยาบาลก็คือโรงพยาบาล ... ทราบทีหลังว่าหมอติด "เคส" ก็เลยมายังไม่ถึง กว่าจะมาถึงได้ก็เกือบเที่ยงวันแล้ว บอกว่า "ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ติดเช้อไวรัสในอากาส ฯลฯ กลับบ้านได้"

เจเจ หน้าตาสดใส และลิงเริ่มกลับมาสิงตามเคย ... สายน้ำเกลือมีเลือดซึมออกมา ...

กลับบ้านได้แต่กลับยังไม่ได้ ... โรงพยาบาลต้องประสานงานกับบริษัทประกันของ เจเจ นานนนนนนนนนนน ... แม่ก็เลยสั่งแม่บ้านให้จัดอาหารเที่ยงมาให้เสียเลย - ข้าวต้ม ไข่เจียว และแกงจืดที่จืนสนิทสมชื่อ กินได้ทั้งลูก แม่ และพ่อ

ระหว่างรอ ทีวี มีถ่านทอดกีฬาโอลิมปิกกิ่งให้ชมด้วย ... ว่ายน้ำรายการที่ไมเคิล เฟลพ์ส ทำลายสถิติได้เหรียญทองเหรียญแรกนั่นแหละ

นานนนนนนน ... ผ่านไป ทุกอย่างจึงเรียบร้อยและกลับบ้านได้

แม่กับ เจเจ ผู้แข็งแรงกระปรี้กระเปร่าผู้มีลิงสิงอยู่ภายใน พากันแวะตู้ เอทีเอ็ม เพื่อโอนเงินค่าหุ้นที่พ่อซื้อวันก่อน ส่วนพ่อผู้เป็นพนักงานขับรถออกไปเอารถเพื่อมารับ ...

แล้วเราก็กลับมาถึงบ้าน ... ป้าปุ๊ย น้าน้อย น้าโขง น้องขิม และน้าแก๋ว รออยู่แล้ว ... จากนั้นบ้านก็ครึกครื้นรื่นรมย์เป็นการใหญ่

ไม่นาน เอส ก็ทำก๊วยเตี๋ยวเลี้ยงประชาชนอย่างอิ่มหนำสำราญฤทัยก่อนแขกพากันล่าถอยไปรับคุณยายที่ทำผมรออยู่ในตลาด ...

จบ

(หมายเหตุ-มีรูปลิง โอ้ยไม่ใช่ เด็กป่วยพร้อมสายน้ำเกลือ แล้วจะนำมาโชว์ภายหลัง)

Sunday, August 3, 2008

JJ and His first Eye Glasses

อาทิตย์ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เวลา 1100น. - เจเจ ไปร้านจักษุแพทย์กับคุณแม่และคุณพ่อ

คุณแม่ไปหาคุณหมอเพราะว่าทั้งแว่นสายตาและคอนเท็กเลนส์เก่าแล้ว ... สองปีแล้ว เลยคิดว่าน่าจะได้เวลาไปหาคุณหมอและจัดการเรื่องนี้เสียที

ส่วนคุณลูกกับคุณพ่อไม่มีแผนการของตนเอง ... ก็เลยห้อยแผนการเข้าไปให้สอดคล้อง (ความจริงอยากออกนอกบ้านกัน!)

เจเจ ... ตอนนี้ "ทีชเชอร์" ย้าย เจเจ ไปนั่งหลังห้อง เลยมอง "บอร์ด" ไม่ค่อยเห็นชัด เจเจ ต้องไปวัดสายตาเหมือนกัน นะแม่นะ
พ่อ ... แว่นตาขาหักมาหลายเดือนแล้ว ไปก็ดี นะแม่นะ จะได้ให้ช่างเขาเช่อมให้เสียที

(พ่อรู้สึกไม่ชอบใจที่ลูกจะต้องใส่แว่นตา ... ก้พ่อใส่มาตั้งแต่อายุสิบแปด สามสิบกว่าปีแล้ว มีปัญหาสารพัด ยุ่งยาก เกะกะ ... เฃ่น ตอนกินก๊วยเตี๋ยวร้อย ๆ ไอน้ำซุปลอยมาเกาะจนมองไม่เห็น นี่ไม่นับตอนจุ๊บคนรักนะ ...โธ่ว้อย มันเกะกะน่าดู! แต่คุณแม่บอกว่าตอนหลัง ๆ เห็น เจเจ บ่นเรื่องปวดหัวอยู่บ่อย ๆ ไปให้หมอวัดเสียทีก็ดี)

To make the long story short ...

คุณหมอบอกว่า เจเจ สายตาเอียง (ไม่ใช่คอเอียงนะครับ) ... ในที่สุดต้องใส่แว่น!

ก็เลยต้องเลือกกรอบแว่น (เลือกเองซะด้วย) ตัดเลนส์ ... ซื้อแว่น และสวมแว่นกันทั้งบ้าน!

(ไว้มีโอกาสจะเอาภาพลิงอายุ เจ็ดขวบ สวมแว่นมาให้ดูนะครับ ... เท่มากจริง)

(นึกในใจคนเดียว ... นี่ถ้าเย็นวันนี้-จันทร์ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2551 - ลูกกลับบ้านพร้อมแว่นตา จะฉลองความรับผิดที่ลูกพัฒนาข้นอย่างรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ!)