Saturday, July 11, 2009
น้ำค้างหยดใส
-๑-
น้ำค้างหยดใส
นั่งนิ่งบนเรียวหญ้า
มองเพื่อน ๆ กลิ้งตัวลงไป
สู่ผืนดิน
เธอรู้
ปู่ย่าน้ำค้างหยดใสเล่าขานเอาไว้
อุทิศร่างให้แก่ผืนดิน …
เป็นอาหาร—เป็นความฉ่ำเย็น—
เป็นชีวิต—เป็นสายโลหิต
แก่ผืนดิน
น้ำค้างหยดใส
เธอไม่อยากกลิ้งตัวลงไป
ดังเช่นเพื่อน ๆ
เธออยากรอ—รอดูแสงตะวันยามอรุณรุ่ง
แม้ปู่ย่าเล่าเตือนไว้
“งดงามยิ่งนัก อันตรายยิ่งนัก”
น้ำค้างหยดใสลังเลใจ
จะกลิ้งตัวลงไป
หรือจะทำดั่งหัวใจปรารถนา
แสงตะวันลอยข้ามทิวไม้พุ่งตรงมา
น้ำค้างหยดใสเกาะเรียวหญ้าไว้แน่น
แน่น—แน่น—แน่น
ทั่วร่างร้อนผะผ่าว
ร่างของเธอค่อย ๆ เหือดหาย
เล็กลง—เล็กลง—เล็กลง
สองมือเกี่ยวเรียวหญ้าไว้แน่น
เล็กลง—แน่น—เล็กลง—
แน่น—เล็กลง—
หมดเวลาแล้ว จะกลิ้งลงไปก็ไม่ทันแล้ว
เล็กลง—เล็กลง—และหายไปแล้ว
น้ำค้างหยดใส
-๒-
ร่างน้ำค้างหยดใสละลายกลายเป็นล้านส่วน
ทุกส่วนล้วนเป็นน้ำค้างหยดใส—
น้ำค้างหยดใสเล็ก ๆ
มีหัวใจดวงเล็ก ๆ
แบบน้ำค้างหยดใสตัวเล็ก ๆ
ลอยสูงขึ้นไป—สูงขึ้นไป—สูงขึ้นไป
สู่แผ่นฟ้า
น้ำค้างหยดใสเล็ก ๆ
โหยหาส่วนที่ขาดหายแยกย้ายไป
ตามอำนาจแห่งแสงตะวัน
“งดงามยิ่งนัก อันตรายยิ่งนัก”
น้ำค้างหยดใสเล็ก ๆ หยดหนึ่ง
ล่องลอยสู่แผ่นฟ้า …
หวาดกลัวจนหมดสติ
เนิ่นนานผ่านไป
เธอรู้สึกตัว เผยอเปลือกตาขึ้น …
เธอนอนนิ่งอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง
มิรู้ได้ว่าแห่งใด
รู้แต่เป็นดินแดนแห่งน้ำค้างหยดใส
ใหญ่—น้อย ล้วนเป็นน้ำค้างหยดใส
เธอกระพริบตาเล็ก ๆ แล้วมองไปรอบ ๆ
ใบหน้าเล็ก ๆ รายล้อมรอบกาย
พร่ามัว—ชัดขึ้น—ชัดขึ้น
ใบหน้าเล็ก ๆ เหล่านั้นยิ้ม
“ยินดีต้อนรับ”
น้ำค้างหยดใสเล็ก ๆ
กับมิตรใหม่ซึ่งล้วนเป็นน้ำค้างหยดใสเล็ก ๆ
ยิ้มให้แก่กัน—ประสานมือเล็ก ๆ เข้าด้วยกัน—
ประสานร่าง—ประสานหัวใจดวงเล็ก ๆ
เข้าด้วยกัน
เป็นน้ำค้างหยดใสหยดเดียว
มีหัวใจดวงเดียว
-๓-
แสงกระพริบขึ้นตรงโน้น
ตรงนั้น—ตรงนี้—ตรงนู้น
แสงเล็ก ๆ กระพริบตาให้แก่กัน
ตรงนั้น—ตรงนี้—
“ชาวน้ำค้างหยดใส
เตรียมตัวให้เรียบร้อย
ครุ่นคิดให้ดี
อย่าลืมอะไรไว้เบื้องหลัง
แม้ร่องรอยแห่งความคิด
เตรียมตัว-เตรียมหัวใจ—
ให้ดี”
แสงเล็ก ๆ ตรงนั้น
ตรงโน้น—ตรงนี้—
กระพริบตาให้แก่กัน
น้ำค้างหยดใสกระโจนลิ่วลง
ลิ่วลง—ลิ่วลง—ลิ่วลง
“เมื่อไปถึง
รีบเกาะทุกอย่าง—อะไรก็ได้—ที่ขวางหน้า
ต้นไม้—เรียวหญ้า—หลังคาเรือน”
น้ำค้างหยดใสโถมกาย
ลิ่วลง—ลิ่วลง—ลิ่วลง
เบื้องล่างจะเป็นอะไร
เรียวหญ้า—พงหนาม—ผืนทราย
หรือกลีบบางของดอกไม้
ลิ่วลง—ลิ่วลง—ลิ่วลง
ฉับพลัน
ลมแรงหวีดหวิวพัดผ่าน
หอบร่างน้ำค้างหยดใส
ไปแสนไกล
คว้าง—คว้าง—คว้าง
พลัดเพื่อน—แตกกลุ่ม
ไปแสนไกล
-๔-
เนิ่นนานผ่านไป
แสงเล็ก ๆ กระพริบตาถี่ขึ้น
ให้สัญญาณแก่กัน
แล้วค่อย ๆ หรี่แสงลง
หรี่แสงลง—หรี่แสงลง--หรี่แสงลง
หายไป
ทีละดวง—ทีละดวง—ทีละดวง
ตรงโน้น—ตรงนั้น—ตรงนี้
หายไป—หายไป—
หมดทุกดวง
ผืนดินเบื้องล่างยังห่างแสนไกล
น้ำค้างหยดใสทิ้งตัวพุ่งลงไป
ลิ่วลง—ลิ่วลง—ลิ่วลง
ก่อนที่แสงตะวันจะปรากฏทางฟากฟ้าด้านโน้น
เบื้องล่าง
แผ่นดินเริ่มปรากฏเลือนลาง
เร็วเข้า—เร็วเข้า—เร็วเข้า
เร็วเข้า
โชคดี
มองเห็นผืนดินแล้ว
ที่เรียวหญ้าตรงนั้นมีน้ำค้างหยดใสเกาะอยู่
เร็วเข้า—เร็วเข้า—เร็วเข้า
ยอดไม้—หลังคาเรือน—ผืนทราย มีน้ำค้างเกาะอยู่
เร็วเข้า—เร็วเข้า—เร็วเข้า
ผืนดินอยู่อีกไม่ไกล
แต่แสงตะวันโผล่ขึ้นมาแล้ว
มาเร็วเหลือเกิน—เร็วเหลือเกิน
เร็วเข้า—ลิ่วลง—เร็วเข้า
แสงตะวันโผล่มาแล้ว
ที่เรียวหญ้าตรงโน้น น้ำค้างหยดใส
ยิ้มให้แสงตะวัน—กลิ้งตัวหลบเงื้อมมือแสงตะวัน—
หล่นสู่พื้น
แทรกร่างหลบลี้ลงสู่ดิน
ที่กลีบงามของดอกไม้
น้ำค้างหยดใสกลิ้งตัวลงสู่ผืนดิน
ขณะแสงตะวันกำลังแผดเผา
หล่นลงสู่พื้น
ร่างแสบร้อนแทบขาดใจ
-๕-
เร็วเข้า—เร็วเข้า—ลิ่วลง
น้ำค้างหยดใสตกลงสู่หลังคาเรือน
แสงตะวันแลเห็น พุ่งตรงเข้าหา
เร็วเข้า—กลิ้งตัว—ลิ่วลง
สู่ผืนดิน
น้ำค้างหยดใสลังเลใจ
ทั้งอยากหันมองดูแสงงามของตะวัน
ทั้งหวาดกลัว
เธอกลิ้งตัวลงตามความลาดเอียง
แล้วไปหยุดอยู่ที่ปลายชายคา
แสงตะวันยิ้มร่าเข้ามาแล้ว
น้ำค้างหยดใสเกาะชายคาไว้แน่น
เข้ามาสิ—ขอดูใกล้ ๆ หน่อย—เร็วเข้า
แสงตะวันแสร้งเมิน
หลบอ้อมไปอีกทางหนึ่ง
น้ำค้างหยดใสถอนใจ
เฮ้อ … ก็ดีเหมือนกัน—นอนพักตรงนี้สักครู่
ก่อนกลิ้งลงสู่ผืนดิน
มองจากชายคาลงสู่พื้นเบื้องล่าง
เป็นสวนดอกไม้
ผีเสื้อและแมลงตัวเล็ก ๆ บินว่อนไปมา
เอ … หรือว่าเป็นสวนผีเสื้อ
ที่มีดอกไม้ชูช่อสลอนอวดความงาม
ตรงนั้น
ผีเสื้อยิ้มออกมาคล้ายนึกอะไรได้
แล้วบินโฉบลงไปหาดอกไม้
กระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหู
ครั้นเธอเผลอหัวเราะกับเรื่องราว
เจ้าผีเสื้อก็แอบหอมแก้มทีหนึ่ง
แล้วบินจากไป
เจ้าผีเสื้อบินสูงสู่ท้องฟ้า
ร่าเริง
แล้ววกกลับลงมา
แวะเกาะที่ก้านใบใกล้ดอกไม้อีกดอกหนึ่ง
เล่าประสบการณ์ของเขาให้เธอฟัง
ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เธอตั้งใจฟัง—ตื่นเต้น—เร้าใจ
ครั้นเธอเผลอ
เจ้าผีเสื้อก็แอบหอมแก้มทีหนึ่ง
แล้วโบยบินจากไป
น้ำค้างหยดใสอยากบินได้เหมือนผีเสื้อ
ถ้าบินได้
จะเริงร่าชื่นชมแสงตะวัน
จะหอมแก้ดอกไม้ด้วย
น่าเสียดาย
น้ำค้างหยดใสมิอาจเป็นผีเสื้อได้
เป็นได้แต่น้ำค้างหยดใส …
ชื่นชมแสงตะวันได้ แต่ต้องถูกแผดเผาละลายไป
หลอกหอมแก้มมวลดอกไม้—ไม่ได้
อย่างดี—ถ้าโชคดี—ก็แค่ลบรอยเปื้อน
บนเรือนแก้มของดอกไม้
ที่กิ่งไม้
นกน้อยสองตัวกำลังนินทาผีเสื้อ
ตัวหนอนรีบขดตัวหลบสายตานกน้อยทั้งสอง
“ดีแต่แอบหอมแก้มดอกไม้” นางนกเอ่ยขึ้น
“อย่าเผลอก็แล้วกัน เธอกลายเป็นเหยื่อฉันแน่”
ตัวหนอนขดตัวเล็กลงไปอีก—ปิดหู—หลับตา—หวาดกลัว
ตัวสั่นงันงก
น้ำค้างหยดใสไม่อยากเป็นตัวหนอน
เธอกลัวจะถูกนกจิกกิน
แต่ถ้านกสัญญาว่าจะไม่กินหนอน
เธออาจอยากเป็นหนอนก็ได้—
เป็นหนอนตัวอ้วน ๆ
คลานไปแอบอยู่ที่ก้านดอกไม้
คอยไล่ผีเสื้อ
ไม่ให้แอบมาหอมแก้มดอกไม้
-๖-
ขณะกำลังเพลิดเพลินกับภาพเบื้องล่าง
น้ำค้างหยดใสเริ่มรู้สึกตัว
ร่างของเธอค่อย ๆ ร้อนผะผ่าว
ร้อนขึ้น—ร้อนขึ้น—ร้อนขึ้น
ร้อน—ร้อน—ร้อนเหลือเกิน
จริงสิ …
ก็แสงตะวันมาตั้งนานแล้วนี่
เร็วเข้า—กลิ้งตัวลงไป
สู่ผืนดิน
เร็วเข้า—เร็วเข้า—เร็วเข้า
เธอปล่อยมือจากชายคา
ร่างร่วงลิ่วลงสู่เบื้องล่าง
ลิ่วลง—ลิ่วลง—
ไม่ทันแล้ว แสงตะวันมาแล้ว
ร่างของน้ำค้างหยดใสร้อนผ่าว
แสบร้อนไปทั้งตัว
ร้อน—ร้อน—ร้อน
อีกนิดเดียวก็จะถึงผืนดินแล้ว
นิดเดียว—เร็ว—เร็วเข้า
อีกนิดเดียว—ร้อน—นิดเดียว—
ร้อน—นิดเดียว—นิด—ร้อน—
มือร้อนฉ่าของแสงตะวันคว้าร่างเธอไว้
เผาร่างเธอด้วยไอร้อน
ร้อน—ร้อน—ร้อน
น้ำค้างหยดใสหลับตา
ขณะร่างค่อย ๆ ละลายเล็กลง
เล็กลง—เล็กลง—ละลายหายไป
หายไปแล้ว …
น้ำค้างหยดใส—มิทันเสพย์แสงงามของตะวัน
ด้วยซ้ำ.
Subscribe to:
Posts (Atom)